วิชชา หมายถึง ความรู้แจ้ง เป็นความรู้ที่เหนือจากพื้นความรู้ของคนทั่วไป ในที่นี้จัดเป็น ๘ อย่าง
๑.วปัสสนาญาณ ญาณอันนับเข้าในวิปัสสนา หมายถึง ปัญญาที่รู้แจ้งสภาวธรรมตามที่เป็นจริง เป็นความรู้แจ้งที่เกิดจากใช้ปํญญาพิจารณารูป-นาม ออกเป็นส่วนๆและรู้ว่าแต่ละส่วนต่างต้องพึงพาอาศัยกัน เบญจขันธ์ถึงจะดำรงอยู่ได้ หรือความรู้แจ้งที่เกิดจากการใช้ปัญญาพิจารณาเห็นความจริงของสังขารทั้งปวงว่า ตกอยู่ในอำนาจของไตรลักษณ์ คือ ไม่เที่ยงด้วยการเกิด ดำรงอยู่ แล้วดับไป เป็นทุกข์ด้วยทนอยู่ในสภาพเดิมมิได้ และมิใช้ตัวตนด้วยหาเจ้าของมิได้ ไม่มีใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เป็นต้น
๒.มโนมยิทธิ ฤทธิ์ทางใจ หมายถึง ความสำเร็จด้วยอำนาจกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ เพียงแต่ใจคิดนึกอยากให้เป็นเท่านั้นก็สามารถสำเร็จตามที่ใจคิดนั้นทุกประการ เช่น พระพุทธเจ้าทรงบันดาลให้พระวรกายใหญ่โตมาก แสดงให้ปรากฎแก่อสุรินทรยักษ์ ซึ่งกล่าวตำหนิพระองค์มีรูปร่างเล็ก เหตุที่พระพุทธองค์ทำเช่นนี้ได้เพราะทรงมีฤทธิ์ทางใจสูงยิ่งนัก
๓.อิทธิวิธี แสดงฤทธิ์ได้ หมายถึง มีอำนาจ หรืออานุภาพ ซึ่งเป็นคุณวิเศษอย่างน่าอัศจรรย์ล่วงวิสัยที่คนทั่วไปทำไม่ได้
๔.ทิพพโสต หูทิพย์ หมายถึง มีความสามารถในการได้ยิน ได้ฟังเสียงทั้งจากที่ไกลๆ หรือเสียงที่เบาที่สุดได้
๕.เจโตปริยญาณ รู้จักกำหนดใจผู้อื่น หมายถึง มีความสามารถกำหนดรู้จิต คือ ความคิดรวมทั้งนิสัยใจคอผู้อื่นได้
๖.ปุพเพนิวาสานุสสติ ระลึกชาติได้ หมายถึง มีความสามารถระลึกอดีตชาติ พร้อมทั้งชีวประวัติของตนในชาติก่อนๆได้
๗.ทิพพจักขุ ตาทิพย์ หมายถึง มีความสามรถในการเห็นสิ่งต่างๆที่อยู่ในที่มืด ที่ไกลได้
๘.อาสวักขยญาณ รู้จักทำอาสวะให้สิ้น หมายถึง ปัญญามีความรู้แจ้งในอริยสัจ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
วิชชา ๘ ๗ ข้อต้นเป็นทั้งโลกิยะและโลกุตตระ ส่วนข้อ ๘ เป็นโลกุตตระอย่างเดียว เพราะเกิดมีแก่พระอรหันต์เท่านั้น
ตอบลบ